แบตเตอรี่เกลือ ความจุสูงกว่าลิเธียมไอออน 4 เท่า และไม่ระเบิด

แม้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเป็นที่นิยมใช้ประโยชน์ได้อย่างแพร่หลาย แต่บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่หลายรายในปัจจุบันเริ่มคิดค้นหาแนวทางการผลิตแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีจุดอ่อนเรื่องความเปราะบาง เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และราคาที่ปรับสูงมากขึ้นตามความต้องการใช้งาน  จึงเกิดการพัฒนาแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมและปลอดภัยกว่าเดิม และขณะนี้ แบตเตอรี่โซเดียมไอออน กำลังก้าวขึ้นมาโดดเด่นในปี 2566

แบตเตอรี่โซเดียมจึงเริ่มถูกนำมาปัดฝุ่นได้รับการพัฒนาอย่างแพร่หลาย เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ที่มีอยู่ทั่วโลกอย่างน้ำทะเล

          ภายใต้การพัฒนาอันยาวนานล่าสุดทีมวิจัยจาก University’s School of Chemical and Biomolecular Engineering ก็ประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่แบตเตอรี่เกลือ โดยการเพิ่มกำมะถันเข้าไปในวงจรทำให้เกิดกระบวนการ Pyrolysis จากขั้วไฟฟ้า ช่วยยกระดับศักยภาพของแบตเตอรี่พลังงานเกลือให้ใช้งานจริงได้ในที่สุด..

          แบตเตอรี่ที่ประสบความสำเร็จนี้คือ แบตเตอรี่โซเดียมซัลเฟอร์ ซึ่งมีความจุสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเดียวกันถึง 4 เท่า โดยยังสามารถรักษาความจุสูงสุดของเซลล์พลังงานในแบตเตอรี่ไว้ได้แม้ผ่านการชาร์จไปมากกว่า 1,000 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่สำหรับแบตเตอรี่ซึ่งมีส่วนประกอบของโซเดียม และถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของวงการ

โซเดียมเป็นโลหะอ่อน ๆ ที่อยู่ในกลุ่มโลหะแอลคาไลน์ (Alkaline) มีลักษณะเป็นของแข็งสีเงิน มีคุณสมบัติสำคัญ คือ เป็นตัวนำความร้อนและไฟฟ้าได้ดี ไม่เป็นพิษ มีความเสถียรต่อความร้อนและความเย็น และเมื่อนำมาผลิตเป็นแบตเตอรี่จะสามารถชาร์จไฟฟ้าได้เร็ว มีความหนาแน่นของพลังงานที่สูง ประกอบกับปัจจัยต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่โซเดียมไออนที่มีต้นทุนต่ำกว่าแบตเตอรรี่ลิเธียมไอออน จึงเป็นแบตเตอรี่ทางเลือกใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะการผลิตแบตเตอรี่เพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์

ปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่หลายๆ แห่งหันมาผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่โซเดียมไอออน เช่น บริษัท CATL ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ให้แก่ Tesla และ Volkswagen ได้ออกมาเปิดตัวแบตเตอรี่โซเดียมไอออนที่สามารถชาร์จได้ 80% ภายในระยะเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ผลิตอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียมไอออนให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขจุดอ่อน ได้แก่ ขนาดของแบตเตอรี่ที่ใหญ่ และปัญหาของเซลล์ไฟฟ้าเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วหลังการใช้งานเพียงไม่นาน อย่างไรก็ดี แบตเตอรี่โซเดียมไอออนไม่เพียงใช้กับรถยนต์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังใช้กับการขนส่งไฟฟ้าได้หลากหลายรูปแบบ ปัจจุบันได้เริ่มใช้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) บางส่วนด้วยแล้ว.

อีกหนึ่งข้อดีของแบตเตอรี่ที่ผลิตจากโซเดียมคือ การไม่ประสบปัญหาจากอุณหภูมิแบบเดียวกับที่เกิดในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ปฏิกิริยาไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ใช้เกลือเป็นวัตถุดิบสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในอุณหภูมิหนาวเย็น จึงไม่จำเป็นต้องกังวลการใช้งานแบตเตอรี่ในสภาพอากาศสุดขั้วอีกต่อไป..

  นี่จึงเป็นเหตุผลให้นักวิจัยจำนวนมากให้ความสนใจพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียมเกิดขึ้นมามากมายจากทั่วโลก

  ปัจจุบันการพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียมไม่ได้มีเพียงแบตเตอรี่โซเดียมซัลเฟอร์อย่างเดียวแต่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน เช่น ในรัสเซียมีการคิดค้นแบตเตอรี่โซเดียมไอออนขึ้นมา หรือแม้แต่ในประเทศไทยยังมีการพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียมไอออนจากแร่เกลือหิน ที่อาจช่วยผลักดันให้เราเป็นศูนย์กลางในการผลิต EV ได้ในอนาคต.

cr:https://globthailand.com/%E0%B9%81%E0%B8%..
https://www.posttoday.com/post-next/innovation/688765
https://www.google.com/..0%B9%81%E0%B8%9A%E0..

การทำงานของเครื่องยนต์2จังหวะ

เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (Two-stroke engine ) คือเครื่องยนต์ที่ทำงาน 2 ช่วงชัก คือ..

ช่วงชักที่ 1 คือช่วงชักดูดกับอัด และ

ช่วงชักที่ 2 คือช่วงชักระเบิดและคาย

และเครื่องยนต์ 2 ช่วงชักจะไม่มีวาล์วเปิดปิดไอดีไอเสีย แต่จะใช้ลูกสูบเป็นตัวเปิดปิดไอดีไอเสียแทน ซึ่งเครื่องยนต์ 2 ช่วงชักจะทำงานรอบจัดกว่าเครื่องยนต์ 4 ช่วงชัก และการเผาไหม้ก็มีประสิทธิภาพด้อยกว่าด้วย

ช่วงชักที่ 1 
ดูด/อัด:ลูกสูบเคลื่อนที่ลงจากศูนย์ตายบนสู่ศูนย์ตายล่าง ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลงมานั้นจะทำให้ช่องพอร์ตไอดีเปิดไอดีถูกอัดจาก ห้องแคร้งค์ผ่านเข้ามาบรรจุในห้องเผาไหม้ ในตอนนี้ช่องพอร์ตไอเสียจะเปิดออก ด้วยเชื้อเพลิงที่เข้ามาจะช่วยขับไอเสียจากการเผาไหม้ด้วย ในการทำงานดังกล่าวเพลาข้อเหวี่ยงทำงาน1/2 รอบ (ครึ่งรอบ)

ช่วงชักที่ 2 
ระเบิด/คาย:ลูกสูบจะเคลื่อนที่ขึ้นจากศูนย์ตายล่างขึ้นสู่ศูนย์ตายบน ทำ ให้ช่องพอร์ตไอดีและพอร์ตไอเสียปิด จึงอัดเอาเชื้อเพลิงให้มีปริมาตรเล็กลงในห้องเผาไหม้ หัวเทียนส่งประกายไฟจุดระเบิดเชื้อเพลิง ลูกสูบเคลื่อนที่ลงเพราะแรงระเบิด ทำให้ลูกสูบอัดเชื่อเพลิงในห้องแคร้งค์แล้วถูกอัดเข้ามาเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ลงจนพอร์ตไอดีและพอร์ตไอเสียเปิดเชื้อเพลิงจะขับไล่ไอเสียออกด้วย เพลาข้อเหวี่ยงหมุนครบ 1 รอบ พอดี.

เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ( 2 Cycle Engine )
             เครื่องยนต์ 2 จังหวะ  (Cycle  Engine)  เป็นเครื่องยนต์แบบง่าย  การทำงานและชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ  มีความยุ่งยากน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบ  4 จังหวะ  การนำเอากาศดีเข้าไปในกระบอกสูบและปล่อยอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ออกจากกระบอกสูบเกิดขึ้นโดยการเปิดและปิดของลูกสูบเอง  เครื่องยนต์ชนิดนี้จึงไม่จำเป็นต้องมีลิ้นและกลไกเกี่ยวกับลิ้น
             ลักษณะของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ  มีดังนี้
1.  อ่างน้ำมันเครื่องปิดสนิท แต่เครื่องยนต์บางแบบมีช่องให้อากาศหรือไอดีเข้าเพื่อผ่านขึ้นไปในกระบอกสูบ
2. ไม่มีเครื่องกลไกของลิ้น  ลูกสูบจะทำหน้าที่เป็นลิ้นเอง
3.  กระบอกสูบอยู่ในลักษณะตั้งตรง
4.  มีช่องไอดี (Inlet Port) เป็นทางให้อากาศเข้าไปภายในกระบอกสูบ  โดยอาจจะมีเครื่องเป่าอากาศช่วยเป่าเข้าไป
5.   มีช่องไอเสีย (Exhaust Port)  เป็นทางให้อากาศเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ออกไปจากกระบอกสูบ

             สัดส่วนความอัด (Compression Ratio) อัตราส่วนระหว่างปริมาตรภายในกระบอกสูบเมื่อลูกสูบอยู่ที่จุดศูนย์ตายล่างกับปริมาตรภายในกระบอกสูบ เมื่อลูกสูบอยู่ที่ศูนย์ตายบนสัดส่วนความอัดของเครื่องยนต์มีความสำคัญมากเพราะมีความสัมพันธ์กับชนิดและคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะนำไปใช้ 

เครื่องยนต์เบนซินจะมีสัดส่วนความอัดอยู่ระหว่าง 5.5/1 ถึง 8/1 สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลนั้น  น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกฉีดเข้าไปในกระบอกสูบหลังจากที่อากาศถูกอัดแล้ว  สัดส่วนความอัดอยู่ระหว่าง 14/1 ถึง 18/1

ขอบคุณhttps://www.google.com/..E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B..

ชุดไอพ่นบินได้ด้วยตัวเองใช้น้ำมันโซล่า วางขายแล้ว

ชุดเจ็ตสูทนี้ถูกคิดค้นโดยนายริชาร์ด บราวนิ่ง นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ หากคุณสวมใส่แล้วก็จะสามารถบินได้จริง เหมือนอย่างกับ ‘ไอรอน แมน’ โดยที่แขนและหลังมีเครื่องไอพ่นขนาดเล็กติดไว้ถึง 5 ตัว ทั้งชุดมีน้ำหนักประมาณ 27 กก.

เมื่อเติมเชื้อเพลิงด้วยน้ำมันดีเซล ก็จะสามารถบินได้สูงสุด 3,658 เมตร ที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. แต่จะบินได้ครั้งละประมาณ 3-4 นาที โดยเครื่องไอพ่นจะกินน้ำมันนาทีละประมาณ 4 ลิตร อย่างไรก็ตามผู้คิดค้นเผยว่ากำลังพัฒนาให้มันสามารถบินได้ยาวนานขึ้นกว่านี้..

หากใครสนใจซื้อ จะมีการวัดสัดส่วนร่างกายลูกค้าเฉพาะของแต่ละคนด้วยแม่พิมพ์ 3 มิติ ส่วนราคานั้นอยู่ที่ 443,428 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 14.8 ล้านบาท เท่านั้นเอง.

ขอบคุณ
https://eon49.com

คลิปจาก Reuters

มาดูขนาดเครื่องยนต์รถบรรทุก500แรงม้า เมื่อวางเทียบกับมอเตอร์ไฟฟ้า1,020 แรงม้า

1. เครื่องยนต์ดีเซล(อันหลัง) 400-600 แรงม้าสำหรับ semi truck

2. มอเตอร์ไฟฟ้า ของ Tesla Semi (tri motor หรือ มอเตอร์รวมอยู่ด้านในทั้งหมด 3 ตัว) 1,020 แรงม้า

_______________

Blink Drive Take

หมายเหตุ : ตัวที่นำมาโชว์นั้นคือ 2 มอเตอร์นะครับ พละกำลังนั้นแรงกว่าเครื่องดีเซล (แรงบิด) มากกว่า 2 เท่าไปแล้วครับ

ส่วนระบบมอเตอร์ไฟฟ้าของ Tesla Semi นั้นถูกพัฒนามาจากมอเตอร์ไฟฟ้าของ Tesla Model S plaid เกือบทั้งหมด

ดังนั้น อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้ครับ

ถ้าช่างซ่อมมอเตอร์ Tesla Model 3 Performance เป็นก็ซ่อมมอเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ได้ครับ

เพราะ Tesla Model S plaid ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า(หลัง)มาจาก Tesla Model 3 Performance ประกบคู่ครับ

ที่มา : https://twitter.com/megawat…/status/1620769342886653952…
https://web.facebook.com/search/top?q=blink%20drive