เตือนภัย » กฎหมายจราจรฉบับใหม่ พ.ศ. 2566 หากทำผิดกฎจะโดนอะไรบ้าง?

กฎหมายจราจรฉบับใหม่ พ.ศ. 2566 หากทำผิดกฎจะโดนอะไรบ้าง?

6 ตุลาคม 2023
785   0

สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม กระทรวงคมนาคม ร่างกฎหมายใหม่ได้กำหนดอัตราความเร็วการขับรถยนต์ไว้ ทางเดินรถแบบจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้นและไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน ในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ได้กำหนดให้ใช้ความเร็วไม่เกินตามประเภทของรถ ได้แก่..

กฎหมายความเร็วรถบรรทุก

  • รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม รถบรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
  • รถบรรทุกผู้โดยสารเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • รถโรงเรียนหรือรถรับส่งนักเรียน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

กฎหมายความเร็วรถยนต์

  • รถยนต์ 4 ล้อใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • ขับรถเลนขวาสุดบนทางหลวง ต้องวิ่งด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • รถแทรกเตอร์ รถบดถนน รถที่ใช้ในการเกษตร ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 45 กม./ชม
  • รถจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

กฎหมายความเร็วรถจักรยานยนต์ / มอเตอร์ไซค์

  • รถจักรยานยนต์ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
  • รถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ซีซีขึ้นไปให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

กฎหมายความเร็วบนทางด่วน 2566

  • รถยนต์ 4 ล้อ วิ่งบนทางด่วนได้ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • รถบรรทุกมากกว่า 2,200 กิโลกรัม หรือรถโดยสารเกิน 15 คน ขับบนทางยกระดับหรือทางด่วนได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • รถโรงเรียน-รับส่งนักเรียน ขับบนทางด่วนได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขอบคุณรูปภาพจาก: การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ละเมิดกฎหมายจราจร มีโทษอะไรบ้าง

  • ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
  • ขับรถฝ่าไฟแดง ปรัไม่เกิน 4,000 บาท
  • ไม่หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุดเมื่อมีสัญญาณไฟแดงปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ขับขี่บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร ปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท ผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินส่วนแบ่งกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
  • ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
  • ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ผู้โดยสาร “ตอนหลัง” ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คนขับ คนซ้อนไม่ใส่หมวกกันน็อค ปรับเท่าไหร่ 2566

  • กรณีผู้ขับขี่ไม่ใส่หมวกกันน็อค ปรับ 400 บาท
  • คนซ้อนไม่ใส่หมวกกันน็อค ปรับ 800 บาท

ยกเว้น ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช หรือผู้นับถือลัทธิศาสนาอื่นที่ใช้ผ้าหรือสิ่งอื่นโพกศีรษะตามประเพณีนิยมนั้น หรือบุคคลใดที่กำหนดในกฎกระทรวง

กรณีขับรถจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเป็นอันตราย

  • นำรถยนต์ที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่นควันดำ ละอองเคมี เกินเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนดมาใช้ในทาง เดินรถปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • นำรถที่ไม่มั่นคงแข็งแรงอาจเกิดอันตรายหรือทำให้เสื่อมเสีย สุขภาพอนามัย มาใช้ในทางเดินรถปรับ 500 บาท
  • นำรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถปรับ 1,000 บาท
  • นำรถที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดเสียงเกินเกณฑ์ที่กำหนดมาใช้ ในทางเดินรถปรับ 1,000 บาท
  • ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจรจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 2,000 -10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจรปรับ 400 -1,000 บาท
  • ขับรถแซงขึ้นหน้ารถอื่นทางด้านซ้ายมือโดยไม่มีเหตุอันสมควรปรับ 400-1,000 บาท
  • ขับรถแซงขึ้นหน้ารถอื่นขณะขึ้นทางชัน ขึ้นสะพาน หรืออยู่ในทางโค้ง ซึ่งไม่มีเครื่องหมาย จราจรให้แซงได้ปรับ 400-1,000 บาท
  • ขับรถไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจร หรือเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้ปรับ 500 บาท
  • ขับรถในทางไม่เปิดไฟ หรือใช้แสงสว่างในเวลาที่มีแสง สว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถหรือสิ่งกีดขวาง ในทางได้โดยชัดแจ้งภายในระยะ 150 เมตร อัตราโทษปรับ 1,000 บาท
  • ใช้สัญญาณไฟวับวาบผิดจากที่กำหนดปรับ 500 บาท
  • ขับรถบรรทุกของยื่นเกินความยาวของตัวรถในทางเดิน รถไม่ติดธงสีแดง ไว้ตอนปลายสุดให้มองเห็นได้ภายในระยะ 150 เมตร ปรับ 1,000 บาท
  • ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท
  • ขับรถไม่จัดให้มีสิ่งป้องกันมิให้คน สัตว์ หรือสิ่งของที่บรรทุก ตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสง สะท้อน หรือปลิวไปจาก รถอันอาจก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ ทำให้ทางสกปรกเปรอะเปื้อน ทำให้ เสื่อมเสียสุขภาพ อนามัยแก่ประชาชนหรือก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินปรับ 500 บาท
  • ขับรถไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจรที่พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงให้ปรากฏด้วยมือปรับ 1,000 บาท
  • ไม่หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด หรือหยุดรถห่างจากพนักงานเจ้าหน้าที่น้อยกว่าสามเมตร ปรับ 1,000 บาท

ไม่พกใบขับขี่ ปรับเท่าไหร่ 2566

หากผู้ใดขับรถไม่มีใบขับขี่ จะมีโทษต่าง ๆ ดังนี้..

  • ไม่มีหรือไม่พกใบขับขี่รถยนต์ เสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ปรับประมาณ 200 – 500 บาท
  • ขับรถในขณะที่ใบขับขี่หมดอายุ ถูกพักใช้ ถูกเพิกถอน หรือถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ จะต้องถูกระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ผู้ประกอบการยินยอมให้ขับรถสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ขับรถไม่มีใบขับขี่ เพราะให้ผู้อื่นใช้ใบอนุญาต ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

กรณีประจำรถโดยไม่ได้รับอนุญาต

หากผู้ใดฝ่าฝืนปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน

ขับรถเหยียบน้ำกระเด็นใส่ผู้อื่น

ปรับสูงสุด 10,000 บาท โทษจำคุกสูงสุด 3 เดือน

ขับรถเหยียบสุนัข

ผู้ใดขับรถเหยียบสุนัข โดนข้อหาทารุณกรรมสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขับรถขวางทางรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล

กฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 76 : เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน จะต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ถ้าหากการกระทำนั้นเป็น”เหตุโดยตรง”ที่ทำให้ผู้เจ็บป่วยในรถพยาบาลถึงแก่ชีวิต อาจเข้าข่ายกระทำความผิดโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือกระทำโดยเจตนาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของผู้ขับรถ

กรณีขับรถตามหลังรถฉุกเฉินซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ในระยะไม่ถึง 50 เมตรปรับ 1,000 บาท

กฎหมายจราจรอื่น ๆ ที่ควรรู้!

  • ไม่ยอมให้รถในทางร่วมทางแยกนั้นผ่านไปก่อน เมื่อขับรถถึงทางร่วมทาง แยกทีหลังปรับ 500 บาท
  • ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น แล้วไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันทีจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 2,000 -10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ขับรถแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร (เว้นแต่ กรณีจะเกิดอันตรายแก่ตน หรือแก่คนโดยสาร) ปรับ 1,000 บาท
  • กระทำด้วยประการใด ๆ บนทางอันเป็นการกีดขวางของการจราจรปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ฝ่าฝืนคำสั่งข้อบังคับหรือระเบียบของเจ้าพนักงานจราจรซึ่งสั่งหรือประกาศ ห้าม หยุดหรือ จอดปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ขับรถบรรทุกวัตถุระเบิด หรือ วัตถุอันตรายไม่จัดให้มีป้ายแสดงถึงวัตถุ ที่บรรทุกจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ทำให้ปรากฏซึ่งสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรที่กำหนดในทางเดินรถโดยไม่มีอำนาจจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ไม่ขับรถที่มีความเร็วช้าให้ใกล้ขอบทางด้านซ้ายในทางเดินรถที่มีสวนกันได้ปรับ 200-500 บาท
  • ไม่ขับรถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสารรถจักรยานยนต์ที่มีความเร็วช้าในช่องเดินรถซ้ายสุด ในทางเดินรถที่แบ่งช่องเดินรถไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป ปรับ 400-1,000 บาท
  • เลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องเดินรถโดยไม่ให้สัญญาณปรับ 400-1,000 บาท
  • ขับรถแซงขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางแยกปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท
  • ขับรถออกจากที่จอดเมื่อมีรถจอดหรือสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าโดยไม่ให้สัญญาณมือหรือแขนหรือสัญญาณไฟปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • กลับรถในทางเดินรถกีดขวางการจราจรปรับตั้งแต่ 200-500 บาท
  • กลับรถในระยะ 100 เมตร จากเชิงสะพานปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท
  • กลับรถที่ทางร่วมทางแยก (เว้นแต่จะมีเครื่องหมายจราจรให้กลับรถได้)ปรับ 400-1,000 บาท
  • หยุดรถหรือจอดรถในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรที่อธิบดีกำหนดในทางเดินรถโดยไม่มีอำนาจปรับ 500 บาท
  • ไม่จอดรถทางด้านซ้ายของทางเดินรถปรับ 500 บาท
  • จอดรถไม่ขนานชิดกับขอบทางหรือไหล่ทางในระยะห่างเกินกว่า 25 เซนติเมตรปรับ 500 บาท
  • หยุดรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุผลสมควรปรับ 500 บาท
  • หยุดรถตรงปากทางเข้าออกของอาคาร หรือทางเดินรถ โดยไม่มีเหตุผลสมควรปรับ 500 บาท
  • จอดรถบนทางเท้าปรับไม่เกิน 500 บาท
  • จอดรถบนสะพานหรือในอุโมงค์ปรับไม่เกิน 500 บาท
  • จอดรถในทางร่วมทางแยก หรือภายในระยะ 10 เมตร จากทางร่วมทางแยกปรับ 500 บาท
  • จอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายห้ามจอดปรับ 500 บาท
  • จอดรถภายในระยะ 15 เมตร ก่อนถึงเครื่องหมายหยุดรถประจำทางและเลยเครื่องหมายไปอีก 3 เมตรปรับ 500 บาท
  • จอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจรปรับ 500 บาท
  • ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเครื่องมือบังคับ รถ มิให้เคลื่อนย้ายจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือ ปรับไม่เกิน 5,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • จอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทางโดยไม่เปิดไฟ หรือใช้แสงสว่างเพียงพอ ที่จะเห็นรถที่จอด นั้นได้ชัดแจ้งในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรปรับตั้งแต่ 200 – 500 บาท
  • ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

ลุ้นรับเงินรางวัล โครงการอาสาตาจราจร

ส่งคลิปกล้องหน้ารถหรือโทรศัพท์มือถือที่บันทึกอุบัติเหตุ และการกระทำผิดกฎจราจร ชิงเงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท โดยจะมีการคัดเลือกคลิปที่ส่งมาทุกเดือน !!

รายละเอียดเงินรางวัล

  • รางวัลที่ 1 จะได้รับเงิน 20,000 บาท
  • รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 บาท  
  • รางวัลที่ 3 จำนวน 6,000 บาท
  • รางวัลชมเชย รวมเป็นเงิน 50,000 บาท

สถานที่สำหรับส่งข้อมูล

  • มูลนิธิเมาไม่ขับ
  • ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.
  • จส.100
  • สวพ.91
  • Facebook เพจตำรวจทางหลวง
  • Facebook เพจกองบัญชาการตำรวจนครบาล

โดนใบสั่งแต่ไม่จ่ายค่าปรับ โดนหมายจับย้อนหลัง 1 ปี

โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้..

1. เจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งให้กับผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี 2522 ทั้งแบบความผิดซึ่งหน้าและความผิดที่ตรวจจับด้วยกล้องตรวจจับการกระทำความผิด ระยะเวลาเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

2. กรณีผู้กระทำความผิดไม่มาชำระค่าปรับ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่งแต่ละประเภท เจ้าพนักงานจราจรจะออกหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง (ใบเตือน) โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระค่าปรับในใบสั่ง โดยให้ถือว่าเจ้าของ หรือผู้ครอบครองได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่ง และต้องชำระค่าปรับภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ซึ่งในขั้นตอนที่ 1. และ 2. ผู้กระทำความผิดสามารถเลือกชำระค่าปรับ ได้ที่สถานีตำรวจ ทุกสถานีทั่วประเทศ, ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารกรุงไทย, เค้าเตอร์เซอร์วิสที่มีสัญลักษณ์ PTM และทางไปรษณีย์

3. กรณีพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบเตือน และผู้กระทำความผิดยังไม่มาชำระค่าปรับ นอกจากการส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการตามมาตรการงดออกเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหา เพื่อให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาพบตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขออนุมัติศาลในเขตพื้นที่ เพื่อออกหมายจับ

4. กรณีถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับ ผู้ต้องหาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตามข้อหาที่ผู้ต้องหากระทำผิดตามใบสั่ง และความผิดข้อหาตามมาตรา 155 “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ม.141 (ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนดในใบสั่ง) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในขั้ตอนนี้ผู้ต้องหาต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจที่ออกหมายเรียก หรือหมายจับ ไม่สามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ตามข้อ 2. ได้

5. ผลของการถูกออกหมายจับในคดีอาญา เมื่อถูกออกหมายจับแล้ว จะถูกบันทึกในระบบ ฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลที่มีหมายจับได้ทั่วราชอาณาจักร โดยใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมฐานข้อมูล หากบุคคลที่มีหมายจับเดินทางออกนอกประเทศจะถูกจับ และเกิดความยากลำบากในเรื่องการเดินทาง ถูกบันทึกในทะเบียนประวัติซึ่งอาจส่งผลต่อการประกอบอาชีพการทำงาน กรณีที่หน่วยงานสอบถามประวัติคดีอาญาว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับ เกิดความยากลำบากและความน่าเชื่อถือในการทำนิติกรรม

6. กรณีผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายจับด้วยตนเอง หรือถูกจับกุม และยินยอมเปรียบเทียบปรับให้คดีอาญาเลิกกัน พนักงานสอบสวนจะยกเลิกหมายจับ และลบประวัติออกจากระบบ

ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยว่ามีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ผ่านช่องทางใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ . หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง Facebook และ Twitter 1197

มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และย้อนหลัง 1 ปี สำหรับใบสั่งที่ยังไม่หมดอายุความ ซึ่งจะหมดอายุความใน 1 ปี มีระบบตรวจสอบโดยเน้นผู้ที่กระทำผิดซ้ำๆ ส่วนใบสั่งที่หมดอายุความเกิน 1 ปีนับย้อนหลังจากนี้ ไม่มีผลแต่อย่างใด.

ที่มา https://www.pohchae.com/2023/10/06/new-traffic-law/